วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2558 พวกเราได้มีโอากาสมาเที่ยว ที่วัดนางสาว ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งภายในวัดที่บรรยากาศที่คึกครื้น และมีผู้คนเข้ามาสักการะ บูชากันมากมาย ประกอบกับวัดนางสาวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ ตำบลท่าไม้
นอกจากนี้ยังมีตำนานกล่าวมาว่า "เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่า ชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พาไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ก่อตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยในโบสถ์หลบหนีภัย โดยทั้งสองอธิษฐานไว้ว่า "ถ้ารอดพ้นจากสงครามในครั้งนี้จะกลับมาบูรณะโบสถ์ใหม่" คนพี่เห็นว่าโบสถ์นี้เก่าเกินที่จะบูรณะใหม่จึ่งไปสร้างวัดใหม่อีกที่หนึ่ง แต่คนน้องต้องการทำตามสัจอธิษฐานของตน จึงได้ทำการบูรณะจนเสร็จ โดยมีชื่อวัดว่า
วัดพรหมจารีย์ " ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า
วัดน้องสาว จนเพี้ยนมาเป็นวัดนางสาว จวบจนปัจจุบันนี้ ในวัดแห่งนี้มีโบราณสถานที่สำคัญคือ
โบสถ์มหาอุด หลังคามุงกระเบื้องดินแบบเก่า เอกลักษณ์ของโบสถ์นี้คือ ไม่มีหน้าต่าง
และบริเวณหน้าวัดยังติดริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาวจังหวัดสมุทรสาคร โดยทางวัดได้มีการสร้างซุ้มริมแม่น้ำและซุ้มลอยน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารปลา โดยปลาส่วนใหญ่จะเป็นปลาสวาย
ไม่เพียงแต่เป็นที่สำคัญ แต่ยังมีประพุทธรูปที่สำคัญประจำวัดนางสาว คือ หลวงพ่อดำ และ พระป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้าน และมีนักท่องเที่ยวมากมายที่แวะเวียนเข้ามาสักการะบูชา
พระป่าเลไลย์
หลวงพ่อดำ
และในทุกๆวันอาทิตย์ทางวัดจะให้มีการขายของไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า อาหารต่างๆมากมาย ซึ่งในวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเยอะเป็นพิเศษ
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สำหรับเรื่องราวที่ชาว OHO!...พาทัวร์ได้นำเสนอไป ในวันต่อไปพวกเราจะมีอะไรมานำเสนอ โปรดติดตามต่อไปค่ะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ/ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น