วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วัดท่ากระบือ


สวัสดีค่ะ วันนี้พวกเราOho!พาทัวร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทาจะมานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสถานที่ที่พวกเราเลือกนำมาเสนอนั่นก็คือวัดท่ากระบือ ซึ่งเป็นสถานที่ทางศาสนาที่สำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร โดยพวกเราได้ศึกษาประวัติของวัดท่ากระบือจากอินเทอร์เน็ตซึ่งได้ข้อมูลมาว่า          
วัดท่ากระบือ ตั้งอยู่ที่ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร วัดท่ากระบือนี้ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับการสร้างวัด ประมาณว่าสร้างขึ้นราว พ.ศ. ๒๔๓๙ เดิมทีเริ่มเป็นวัดเล็กๆ มีพระผู้เฒ่าเป็นเจ้าสำนักดูแลวัด ต่อมาชาวบ้านเรียกว่าวัดท่าควาย เนื่องจากชาวบ้านนำควายข้ามไปมาที่หน้าวัด เพราะว่าวัดอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน พ่อค้าหรือชาวนา ได้นำควายมาเพื่อค้าขายบ้าง ทำนาบ้าง ต่อมา พ.ศ.๒๔๔๑ พระเดชพระคุณท่านเจ้า พระคุณพระไพโรจน์วุฒาจารย์ ได้รับแต่งจากคณะสงฆ์ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ ท่านได้ก่อสร้างวัด พัฒนาวัดมีเสนาสนะต่างๆเช่นพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ เป็นต้น กล่าวได้ว่า ท่านเป็นองค์ริเริ่มสร้างสรรค์ พัฒนาวัดท่ากระบือให้เป็นวัดที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างในสมัยนั้น เมื่อ พ.ศ.๒๕oo พระครูสาครบุญวัฒน์(หลวงพ่อหยัด กตปูญโญ)ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแทน ต่อมาจนถึงปัจจุบันคือพระครูศิริสาครธรรม(จำนงค์ คุณงโค)
เมื่อได้ทราบประวัติอย่างนี้แล้ว พวกเราOho!พาทัวร์ก็ไม่รอช้าที่จะนำเสนอสถานที่นี้ให้คนทั่วไปได้เข้ามาชมกัน
          วันนี้เราเริ่มออกเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังวัดท่ากระบือ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง แปปเดียวเท่านั้นเองค่ะ หากใครมีเวลาก็สามารถเดินทางมาเที่ยวกันได้ ซึ่งวัดท่ากระบือก็ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก
          เมื่อมาถึงยังจุดหมายพวกเราก็ไม่รีรอที่จะสำรวจสถานที่  เมื่อเดินเข้าไป ก็จะเจอกับเจ้าแม่กวนอิม ที่อยู่ตรงกลางสระ ซึ่งในสระ ก็จะมีปลา และเต่าจำนวนมากที่ชาวบ้านนำมาปล่อย 
            หากต้องการกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ของวัด ภายในวิหารห้ามจุดธูปนะคะ ต้องไหว้จากด้านหน้าที่ทางวัดจัดแยกไว้เป็นแต่ละศาลาเช่น เจ้าแม่กวนอิม พระราหู รูปหล่อหลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อหยัด เป็นต้น
เจ้าแม่กวนอิม
พระราหู
       
          พระเกจิที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักเลื่อมใสของทางวัดก็คือ พระไพโรจน์ วุฒาจารย์ ติสสโรมหาเถระ(หลวงพ่อรุ่ง)เกจิอาจารย์แห่งยุคสงครามอินโดจีน ศักสิทธิ์เรืองเวทย์วิทยาอาคม จนได้ฉายาเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน
พระไพโรจน์ วุฒาจารย์ ติสสโรมหาเถระ(หลวงพ่อรุ่ง)
           สิ่งพิเศษที่เล่าขานกันมากคือ หลวงพ่อศึกษาทางด้านเวทย์มนคาถาความขลังงในวิทยาอาคม ลูกศิษย์รุ่นเก่ามักได้รับวัตถุมงคลหลายชนิดประเภท พระกรุ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด ธง ตระกรุด จนเป็นที่เลื่องลือในพลังพลานุภาพของวัตถุมงคล ในด้านการปกป้องคุ้มครองภยันตราย โรคภัยไข้เจ็บ ค้าขายรุ่งเรือง ด้วยเหตุนี้ลูกศิษย์หลายสมัยมักหาวัตถุมงคลไว้ในครอบครองตลอดมา ในที่สุดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2500 เวลา 01.05 น. ศิษยานุศิษย์ก็ต้องสูญเสียหลวงพ่อรุ่งไปด้วยอาการสงบ รวมอายุได้85ปี
            วัตถุมงคลของท่านโดดเด่น โด่งดังทางด้านแคล้วคลาดและอยู่ยงคงกระพัน ชาวบ้านและประชาชนในยุคนั้นเคารพนับถือศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของท่านมีหลายชนิดเช่น ตะกรุด 9 ดอก, ตะกรุดโทน , ตะกรุดหน้าผากเสือ , แหวนพิรอด , เสื้อยันต์ , ผ้ายันต์ รูปถ่ายและเหรียญ
มาชมบรรยากาศภายในวัดกันได้เลยค่ะ
ปากทางเข้าวัด
วิหารที่ทางวัดเพิ่งก่อสร้างใหม่เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ สวยงามมากๆ

         ถ้าเพื่อนๆสังเกตให้ดี จะเห็นว่าการประดับตกแต่งวิหารใหม่นี้ช่างใช้เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ นำมาตกแต่ง(แถวกระทุ่มแบน มีโรงงานทำเครื่องเบญจรงค์อยู่เยอะ จนเป็นที่ขึ้นชื่อค่ะ) เป็นความคิดที่สร้างสรรค์มากๆค่ะ
          ด้านหลังวัดจะเป็นแม่น้ำท่าจีน บรรยากาศเย็นสบายมากๆเลยค่ะ

   
      สิ่งปลูกสร้างอื่นๆที่น่าสนใจของทางวัดยังมีอีกนะคะ อาทิเช่น พระอุโบสถ ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2485 ปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว อาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องลดชั้น2ชั้นซ้อนกันชั้นละ3ตับ ช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันไม้แกะสลักประดับกระจกสี ด้านหน้ามีมุขลด รองรับโครงหลังคาด้วยยเสาปูนสี่เหลี่ยม ด้านข้างมีคันทวย ผนังก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานบัว ด้านหน้ามีประตูทางเข้า2ประตู ซุ้มประตูทรงมณฑป ผนังตอนบนระหว่างซุ้มหน้าต่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยรอบอาคารเป็นระเบียงทางเดิน และมีบันไดทางขึ้นทางด้านหน้าและด้านข้าง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง แสดงปางสมาธิ และฝาผนังมีภาพจิตรกรรมที่เขียนขึ้นใหม่
       พระวิหาร2หลัง ตั้งอยู่ด้านข้างของพระอุโบสถ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2493 ลักษณะเป็นอาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูน หลังคาเครืื่องไม้มุงกระเบื้องลดชั้น2ชั้น ซ้อนกันชั้นละ2ตับ มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ด้านหน้ามีมุขลด รองรับโครงหลังคาด้วยเสา4ต้น
        พระปรางค์ จำนวน4องค์ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของพระอุโบสถติดกับแม่น้ำท่าจีน ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปรางค์ ก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่บนฐานเขียง ที่ฐานมีคำอุทิศจารึกอยู่บนแผ่นหินอ่อน ถัดขึ้นไปเป็นชุดฐานสิงห์ เรือนธาตุมีซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศ ส่วนยอดปรางค์ มีพศูลโลหะปักอยู่
         และในวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้ทำพีธียกเศียรหลวงพ่อรุ่งขึ้นไปประกอบกับสระสรีระ จนออกมาดูสวยงาม ซึ่งมีผู้ไปเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก




          เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับสิ่งที่พวกเราได้นำเสนอไปน่าสนใหมเอ่ย ในตอนต่อไปพวกเราจะพาไปที่ใหน  ติดตามได้เลยค่ะ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น